Author - admin_3bb

HOME FibreLAN PLUS

  1. บริการเอไอเอส ไฟเบอร์ ตามแพ็กเกจ HOME FibreLAN PLUS ติดตั้งโดยใช้สายเคเบิลใยแก้วโปร่งใส (Transparent Fiber Optic) ในการเชื่อมต่อแต่ละห้อง เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดระดับ 1Gbps
  2. แพ็กเกจ HOME FibreLAN PLUS เฉพาะลูกค้าที่จดทะเบียนในนามบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สำหรับที่พักอาศัย (Fibre to the Home(FTTH)) และ Fibre to the Room (FTTR) เท่านั้น
  3. อัตราค่าบริการรายเดือนเป็นอัตราที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
  4. ค่าติดตั้งและค่าเดินสายภายนอก 4,800 บาท ชำระในรอบบิลแรก หรือรับเป็นส่วนลดค่าติดตั้งและเดินสายภายนอก จำนวน 4,800 บาท เมื่อใช้บริการแพ็กเกจ HOME FibreLAN PLUS ต่อเนื่องครบ 24 รอบบิล นับแต่วันติดตั้ง หากการใช้บริการสิ้นสุดก่อนครบ 24 รอบบิล ลูกค้าต้องชำระค่าเสียหายในอัตราของค่าติดตั้งตามระยะเวลาที่ได้มีการหักลดลงตามสัดส่วนที่ได้ใช้บริการไปก่อนแล้ว
  5. เมื่อใช้บริการแพ็กเกจนี้แล้ว ลูกค้าไม่สามารถย้ายจุดติดตั้งได้ ตลอดสัญญาการใช้งาน
  6. พิเศษ! ยกเว้นค่าแรกเข้าสำหรับทุกแพ็กเกจ
  7. กรณีลูกค้าปัจจุบันที่เปลี่ยนมาใช้ แพ็กเกจนี้ และได้รับการเปลี่ยนหรือเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ จะต้องเปลี่ยนระยะเวลาใช้บริการเดิมเป็นอย่างน้อย 24 รอบบิล ตามแพ็กเกจนี้ พร้อมรับส่วนลดค่าติดตั้งและเดินสายภายนอกมูลค่า 4,800 บาท นับแต่วันติดตั้งตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของแพ็กเกจ
  8. ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจซึ่งมีความเร็ว (Speed) น้อยลง ตลอดระยะเวลาการใช้บริการ 24 รอบบิล
  9. กรณีไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว เนื่องจากใช้บริการเต็มวงเงิน (Credit Limit) หรือค้างชำระค่า บริการต่างๆ ในแพ็กเกจ ลูกค้าจะถูกระงับการใช้บริการทั้งหมด เมื่อชำระค่าใช้บริการที่ค้างชำระจนครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้วจะสามารถกลับมาใช้บริการต่างๆ ในแพ็กเกจได้ตามปกติ
  10. แพ็กเกจนี้สำหรับการใช้งานปกติเท่านั้น ห้ามนำออกให้เช่า หรือให้บริการแก่ผู้อื่นในเชิงพาณิชย์
  11. รับสิทธิ์ยืมใช้อุปกรณ์ ดังนี้
    • แพ็กเกจสำหรับการใช้งาน 2 ห้อง ได้รับอุปกรณ์ จำนวนรวม 2 เครื่อง มูลค่ารวม 14,800บาท
    • แพ็กเกจสำหรับการใช้งาน 3 ห้อง ได้รับอุปกรณ์ จำนวนรวม 3 เครื่อง มูลค่ารวม 19,700 บาท
    • แพ็กเกจสำหรับการใช้งาน 4 ห้อง ได้รับอุปกรณ์ จำนวนรวม 4 เครื่อง มูลค่ารวม 24,600 บาท
    • แพ็กเกจสำหรับการใช้งาน 5 ห้อง ได้รับอุปกรณ์ จำนวนรวม 5 เครื่อง มูลค่ารวม 29,500 บาท
    • กรณีการใช้บริการสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ลูกค้าต้องส่งคืนอุปกรณ์ที่ได้รับสิทธิยืมใช้ทั้งหมดในสภาพสมบูรณ์และสามารถใช้งานได้ตามปกติ ให้แก่บริษัท 3BB Shop ทุกสาขา
  12. บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เอไอเอสแบบรายเดือน สำหรับลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจ HOME FibreLAN PLUS ที่กำหนด และรับสิทธิ์เปิดเบอร์ใหม่รายเดือน และรับสิทธิ์ใช้งาน Internet ตามแต่ละแพ็กเกจ
    • ความเร็วสูงสุดในการใช้งาน 1Gbps/1Gbps หลังจากการใช้งาน Internet ครบตามปริมาณที่กำหนด 20 GB จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องที่ ความเร็วสูงสุด 64 Kbps
    • อัตราค่าบริการ โทรทุกเครือข่าย / VDO Call นาทีละ 1.50 บาท/ SMS ข้อความละ 2.5 บาท/ MMS ข้อความละ 4.5 บาท
    • ค่าบริการส่วนเกินจากสิทธิที่ได้รับในแพ็กเกจ จะคิดเพิ่มเติมจากค่าบริการรายเดือน และเป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เอไอเอสแบบรายเดือน แพ็กเกจ HOME FibreLAN PLUS มีระยะเวลาใช้บริการ 24 รอบบิล นับตั้งแต่วันที่ลูกค้าติดตั้งแพ็กเกจสำเร็จ
    • ลูกค้าที่ใช้ บริการ Multi SIM , AIS Hot Deal, Apple Watch Device และแพ็กเกจเสริม เหมา เหมา Share ไม่สามารถรับสิทธิ์แพ็กเกจนี้ได้
    • สิทธิ์การใช้งานของทุกแพ็กเกจสามารถใช้ได้ในแต่ละรอบบิลเท่านั้น กรณีใช้งานไม่หมดไม่สามารถยกยอดคงเหลือสะสมไปรอบบิลถัดไปได้ และสิทธิ์ที่ได้รับจะสิ้นสุดทันทีที่ยกเลิกบริการ เปลี่ยนแพ็กเกจ หรือโอนเปลี่ยนแปลง
  13. สิทธิ์ใช้งาน AIS SUPER WiFi ระบบจะส่ง WiFi Username และ Password ผ่านทาง SMS โดยอัตโนมัติ รายละเอียดเพิ่มเติม www.ais.th/wifi
  14. สิทธิพิเศษต่างๆ จะสามารถใช้งานได้หลังจากได้รับ SMS ยืนยันภายใน 3 วัน ดังนี้ แพ็กเกจเสริม1.PLAY M2.AIS SUPER WiFi ไม่จำกัด
  15. รองรับการใช้บริการเสริม Voice
  16. รองรับการสมัครบริการเสริมเพิ่มจุด AIS PLAYBOX (กล่อง 2, กล่อง 3) ค่าบริการรายเดือน 129 บาท/เดือน/จุด (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) **ระยะสัญญา 24 เดือน**
  17. ไม่รองรับการสมัครบริการเสริม Super MESH WiFi
  18. โทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์รุ่นที่รองรับ (Device ที่สามารถรองรับช่องสัญญาณที่มีความกว้างขนาด 160MHz) เช่น
    • สมาร์ทโฟน: Huawei P50 series, Huawei P40 series, Huawei Mate 40 series, Xiaomi 11/12 series, Honor Magic 3 series, Samsung S21/S22, Redmi K40 pro, OnePlus (9/10), VIVO iQOO 7/8/9, realme GT2 pro
    • โน้ตบุ๊ก: Huawei Matebook X Pro, HP OMEN, HP ZHAN 99, ThinkPad E14, ThinkPad T14, Lenovo Y9000, Dell Latitude 3330, Dell New XPS 13

    หมายเหตุ: ความเร็วในการใช้งาน ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานในเครือข่าย หรือความสามารถอุปกรณ์

Cloud IP Camera

ข้อตกลงและเงื่อนไขบริการ :

  1. บริการเสริม Cloud IP Camera หมายถึง บริการพื้นที่เก็บข้อมูลภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกโดยกล้องวงจรปิด (IP Camera) บน Cloud โดยผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงหรือเรียกดูข้อมูลภาพเคลื่อนไหวทั้งแบบ ณ ปัจจุบัน (Real-Time) และแบบย้อนหลัง (Playback) ผ่านช่องทาง Mobile Application ที่บริษัทกำหนด
  2. ผู้ใช้บริการตกลงใช้บริการเสริม Cloud IP Camera อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลหรือ ข้อมูลภาพเคลื่อนไหวที่เกิดจากการใช้บริการเสริม Cloud IP Camera ผ่าน Mobile Application ที่ได้ลงทะเบียน และเชื่อมต่อกับ IP Camera ด้วยตนเอง ตามข้อตกลงและเงื่อนไขนี้
  3. อัตราค่าบริการแพ็กเกจ Cloud IP Camera เดือนละ 99 บาท/เดือน/จุดบริการ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เว้นแต่ได้รับส่วนลด ตาม รายการส่งเสริมการขายแพ็กเกจหลัก
  4. รับสิทธิ์บริการเสริม Cloud IP Camera สามารถดูภาพย้อนหลังได้ 7 วัน จากอุปกรณ์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันที่กำหนด ตลอด ระยะเวลา การใช้บริการ
  5. รับส่วนลดค่าใช้IP Camera 1 ตัว/จุดบริการ มูลค่า 1,290 บาท โดยกรรมสิทธิ์อุปกรณ์จะเป็นของลูกค้าเมื่อใช้บริการครบ สัญญา 24 เดือน และจ่ายค่าบริการครบถ้วนแล้ว
  6. สามารถสมัครบริการเสริม Cloud IP Camera สูงสุดไม่เกิน 5 แพ็กเกจ/หมายเลขอินเทอร์เน็ต
  7. ระยะเวลาใช้บริการของแต่ละแพ็กเกจข้างต้นเริ่มนับตั้งแต่วันที่กล้องวงจรปิด (IP Camera) ของแพ็กเกจนั้นถูกส่งถึงผู้ใช้บริการ
  8. เมื่อตกลงรับสินค้าแล้ว ไม่สามารถคืนสินค้าได้ เป็นไปตามเงื่อนไขการสมัครและติดตั้งบริการตามระยะเวลาสัญญาที่ทางบริษัทฯ กำหนด
  9. หากผู้ใช้บริการเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจหลักบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์สิทธิต่างๆ ตามแพ็กเกจเดิมจะสิ้นสุดลงทันทีนับแต่วันเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจ
  10. ผู้ใช้บริการจะได้รับส่วนลดค่าใช้ IP Camera ตามจำนวนข้างต้นพร้อมได้รับโอนกรรมสิทธิ์เครื่อง ก็ต่อเมื่อผู้ใช้บริการได้ชำระค่า บริการเสริม Cloud IP Camera ครบตามระยะเวลาแพ็กเกจนั้นๆ เรียบร้อยแล้ว
  11. กรณีการใช้บริการเสริม Cloud IP Camera ของแพ็กเกจใดสิ้นสุดลงก่อนครบระยะเวลาแพ็กเกจไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้ใช้บริการ ตกลงชำระค่าเสียหายในอัตราเท่ากับส่วนลดค่าใช้ IP Camera (ต่ออุปกรณ์) ของแพ็กเกจนั้นให้แก่บริษัท
  12. เมื่อครบระยะเวลาใช้บริการตามแพ็กเกจ ระบบจะต่อระยะเวลาใช้บริการตามอัตราและเงื่อนไขของแพ็กเกจใหม่ ณ ขณะนั้นให้แบบอัตโนมัติโดยบริษัทจะส่ง SMS แจ้งไปยังผู้ใช้บริการก่อนครบระยะเวลาแพ็กเกจ หากผู้ใช้บริการไม่ประสงค์จะใช้บริการต่อไปให้แจ้งยกเลิกการใช้บริการ มายังบริษัทก่อนครบระยะเวลาแพ็กเกจนั้นๆ
  13. หากผู้ใช้บริการย้ายสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ ไม่เป็นเหตุให้การใช้บริการเสริม Cloud IP Camera สิ้นสุดลง
  14. กรณีการใช้บริการสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถใช้งาน Mobile Application ที่ได้ลงทะเบียนไว้เพื่อการเข้า ถึงหรือ เรียกดูข้อมูลภาพเคลื่อนไหวได้และข้อมูลภาพเคลื่อนไหวบนระบบ Cloud จะถูกลบทันทีนับแต่วันสิ้นสุดการใช้บริการและ ไม่สามารถเรียกคืน ข้อมูลภายหลังวันสิ้นสุดการใช้บริการได้
  15. การให้บริการหลังการขาย IP Camera จะสิ้นสุดลงเมื่อครบระยะเวลาแพ็กเกจที่สมัครครั้งแรก หรือเมื่อการใช้บริการตามแพ็กเกจได้สิ้นสุดลง ไม่ว่าด้วยเหตุใด หลังจากนั้นผู้ใช้บริการสามารถแจ้งขอรับบริการหลังการขายกับผู้ผลิต IP Camera ได้โดยตรง
  16. ผู้ใช้บริการตกลงยืนยันว่าผู้ใช้บริการได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลภาพเคลื่อนไหวในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบบริการเสริม Cloud IP Camera อย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วตลอดระยะเวลาใช้บริการตามข้อตกลงและเงื่อนไขนี้
  17. สามารถดูรายละเอียดบริการเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/consumers/fibre/services/cloud-ip-camera/
  18. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

SUPER MESH 1.5GB

การทดสอบความเร็วผ่านอุปกรณ์หลัก T3 T640A (ก่อนการเชื่อมต่อ Router เสริม หรือ Mesh)

- ทำความเร็วได้สูงสุดผ่าน WiFi 1.5Gbps/500Mbps

- ทำความเร็วได้สูงสุดผ่าน LAN 900/500Mbps

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต จำกัด, บริษัท อินคลาวด์ จำกัด และบริษัท ทรี บีบี จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ตามรายชื่อที่ปรากฏใน Link นี้ (ซึ่งรวมเรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ โดยขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ประกาศ”) ฉบับนี้ เนื่องจากเป็นการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของท่าน ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยประกาศฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งที่กำหนดรายละเอียดตาม นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ กลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัทจึงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

1. ประกาศนี้ใช้กับบุคคลดังต่อไปนี้

  • ลูกค้า/ผู้ใช้บริการของบริษัทซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
  • ผู้ประกอบการ ร้านค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ คู่สัญญาของบริษัท ที่เป็นบุคคลธรรมดา
  • บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับลูกค้า/ผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการ ร้านค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ที่เป็นนิติบุคคล เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทน ผู้ประสานงาน ผู้ติดต่อ พนักงาน หรือบุคคลใดที่ได้รับมอบหมาย
  • บุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่ลูกค้า/ผู้ใช้บริการสินค้าหรือบริการของบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท หรือเข้าใช้บริการที่สำนักงาน สาขาหรือสำนักงานบริการของบริษัท
  • บุคคลธรรมดาที่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม หรือเปิดเผย จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขอบเขตบริการที่ท่านใช้หรือความสนใจในบริการหรือสินค้าของท่าน หรือกิจกรรมความสัมพันธ์ของท่านที่มีอยู่กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ภาพถ่าย ภาพและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง
  • ข้อมูลการติดต่อ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
  • ข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการ การใช้เครือข่าย และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระเงิน หมายเลขบัตรเครดิต และหมายเลขบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลที่ใช้เพื่อระบบรักษาความปลอดภัย
  • ข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาการให้บริการ และ รวมถึงในกรณีที่ลูกค้าเกิดปัญหาการใช้งาน ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงข้อมูลเพื่อการตรวจสอบและใช้ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีการกระทำผิดเงื่อนไขการใช้บริการ หรือผิดกฎหมายใดๆ

3. ฐานทางกฎหมาย

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลข้างต้น โดยฐานทางกฎหมายที่บริษัทใช้เป็นหลัก ได้แก่ เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการหรือดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังต่อไปนี้

4.1 การเก็บข้อมูลโดยตรงจากท่าน

  • ขั้นตอนการยื่นคำขอ การสมัคร การเข้าทำสัญญาการใช้บริการต่างๆ กับบริษัท เช่น การเปิดเบอร์ใหม่ การสมัครบริการเสริม การขอรับสิทธิประโยชน์ การขอสมัครบริการอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ได้รับจากการทำแบบสอบถามของท่าน การรับส่งข้อความทางอีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน
  • ข้อมูลที่ได้รับจากการใช้บริการ การใช้เครือข่าย และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ เช่น ตำแหน่งของท่านที่ใช้งานภายในเครือข่าย ข้อมูลตำแหน่งที่สร้างโดย Global Positioning System (‘GPS’)
  • ข้อมูลที่ได้รับจากการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน Cookies ของท่าน เช่น Google Analytics ตามนโยบายการใช้ cookiesของบริษัท
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัท ผ่านพนักงาน หรือผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์ ของบริษัท เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัทก่อนหรือในขณะที่ท่านจะเข้าเป็นคู่ค้า พันธมิตร คู่สัญญากับบริษัท

4.2 บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง ซึ่งแหล่งข้อมูลดังกล่าวมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจและผู้รับจ้างช่วงที่บริษัทไว้วางใจให้ดำเนินการสมัครบริการและให้บริการแก่ท่าน

5. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผย

  • เพื่อให้บริการตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
  • เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเครือข่าย การให้บริการให้มีประสิทธิภาพ
  • เพื่ออำนวยความสะดวกในการแจ้งหรือการติดตาม ทวงถาม การชำระค่าบริการ ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ เช่น การส่งหนังสือแจ้งค่าบริการ ใบสั่งซื้อสินค้าและบริการ การแจ้งเตือนให้ชำระค่าสินค้าและบริการ จัดทำใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี
  • เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อส่งให้หน่วยงานที่ต้องการตรวจสอบการบริหารจัดการข้อมูลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อป้องกันการทุจริต
  • เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลในการให้บริการ การวางแผนการตลาด กิจกรรมทางการตลาดของบริษัทและกลุ่มพันธมิตร ที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย
  • เพื่อแจ้งและนำเสนอ สิทธิประโยชน์ ข้อมูล ข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่างๆ เกี่ยวกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่างๆ ของบริษัทรวมถึงนิติบุคคลหรือกลุ่มพันธมิตรที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายผ่านทางอีเมล ข้อความสั้น (Short Message: SMS) แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ เป็นต้น
  • เพื่อการสมัคร หรือเปิดใช้บริการ การสั่งซื้อสินค้า การขายสินค้า บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรมทางออนไลน์หรือการใช้บริการต่างๆ ของบริษัท รวมถึงนิติบุคคลหรือกลุ่มพันธมิตรที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย
  • เพื่อดำเนินการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้สมัครสำหรับลงทะเบียนและเข้าใช้บริการ
  • เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อให้บริการหลังการขาย หรือบริการตามที่ท่านร้องขอ สนับสนุนการใช้งาน ให้ข้อมูล ตอบรับ และแก้ไขข้อร้องเรียนต่างๆ
  • เพื่อสอบถาม ประเมิน ความเข้าใจ ความต้องการและความพึงพอใจของท่าน
  • เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายการให้บริการของบริษัท
  • เพื่อการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรมของสถานประกอบการและสาขาของบริษัท เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

  • บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท (“บุคคลอื่น”) เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่น เช่น
  • ผู้แทนจำหน่ายของบริษัท เช่น บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่นจำกัด มหาชน (เทเลวิซ)
  • ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง เช่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัทดีเอชแอล ซัพพลายเชน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นต้น
  • ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน เช่น ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน
  • ผู้ให้บริการระบบคลาวด์
  • ผู้ประมวลผลข้อมูล
  • ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี และจัดทำโปรแกรมหรือระบบไอทีต่าง ๆ
  • ที่ปรึกษาวิชาชีพ
  • ผู้ให้บริการประกันภัยที่ท่านประสงค์จะเข้าใช้บริการ
  • หน่วยงานที่ต้องการตรวจสอบการบริหารจัดการข้อมูลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อป้องกันการทุจริต
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่มีอำนาจควบคุมและกำกับดูแลตามกฎหมาย
  • หน่วยงานอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย เช่น หน่วยงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมาย หน่วยงานตรวจสอบ หรือกระบวนการทางกฎหมาย / การฟ้องร้อง
  • บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริการแต่ละประเภท ตามระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายที่บังคับใช้ระหว่างท่านและบริษัท เว้นแต่เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัท หรือเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการปฏิบัติงานภายในของบริษัท หรือเพื่อดำเนินการตามข้อเรียกร้องทางกฎหมายหรือกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลร้องขอ ซึ่งข้อมูลจะถูกจัดเก็บรักษาไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท

7.2 บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามมาตรฐานการทำลายข้อมูลของบริษัท เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว

8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลของท่านไปยังกลุ่มบริษัท หรือกลุ่มพันธมิตรที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย รวมทั้งแพลตฟอร์มของคลาวด์ (Cloud) ในต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของท่าน หรือประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจในภาพรวม ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

9. การขอความยินยอม

บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่าน ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

9.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการใช้หรือให้บริการของบริษัทบางประเภทเท่านั้น เช่น ข้อมูลของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นและการได้ยิน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ (Biometric) ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

9.2 เพื่อการวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติรวมถึงการพัฒนาปรับปรุงบริการหรือสินค้าของบริษัทหรือกลุ่มพันธมิตรของบริษัท ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

9.3 การดำเนินการทางการตลาด การนำส่งข้อเสนอสินค้าและบริการ ข่าวสาร คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ การออกกลยุทธ์ทางการตลาด การเสนอสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัท พันธมิตรทางธุรกิจหรือนิติบุคคลอื่นที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทในการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

9.4 หากบริษัททราบอยู่ก่อนแล้วว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ ซึ่งบริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้เยาว์จนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีฐานทางกฎหมายกำหนดให้บริษัทสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม

10. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิของท่านภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต โดยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทหรือขอใช้สิทธิด้วยตัวท่านเอง ตามช่องทางที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อยื่นคำร้องโดยบริษัทจะขอให้ท่านแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าท่านเป็นเจ้าของข้อมูลจริง

บริษัทอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามแต่กรณีหากพบว่าคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซาก หรือมีจำนวนมากเกินจำเป็น และบริษัทอาจปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิที่ไม่สุจริต/ไม่สมเหตุสมผล/ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง หรืออาจปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์อื่นใดที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

10.1 สิทธิขอถอนความยินยอม
เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา สอบถามถึงผลกระทบก่อนการดำเนินการใช้สิทธิดังกล่าว หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

10.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลและขอรับสำเนา
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น สำเนาบันทึกการใช้งานโทรศัพท์ (Call Detail Record: CDR) สำเนาใบแจ้งหนี้ สำเนาใบเสร็จ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทกำหนด ณ ศูนย์บริการ 3BB หรือผ่านแอปพลิเคชั่น 3BB Member ได้ตลอดเวลา หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

10.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ หรือโดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย

10.4 สิทธิขอคัดค้าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ในกรณีใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ ซึ่งการใช้สิทธิคัดค้านของท่านอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้
1. การรับข้อความสั้น (Short Message: SMS) ประชาสัมพันธ์จากบริษัท
2. การรับข้อความสั้น (Short Message: SMS) ประชาสัมพันธ์จากผู้ให้บริการเสริมที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท
3. การรับข้อความสั้น (Short Message: SMS) ประชาสัมพันธ์จากพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
4. การถูกติดตามทวงถามค่าใช้บริการทาง ข้อความสั้น (Short Message: SMS)
5. การถูกติดตามทวงถามค่าใช้บริการด้วยบุคคลทางโทรศัพท์
6. การเสนอขายสินค้า บริการ และการส่งเสริมการตลาดด้วยบุคคลทางโทรศัพท์
7. การตลาดแบบตรง

อย่างไรก็ดี หากท่านยื่นคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยเป็นไปเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ บริษัทอาจจะยังคงการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยต่อไป หากบริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้ง สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

10.5 สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอใช้สิทธิให้บริษัทระงับการใช้แทน

10.6 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน

10.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย

10.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยท่านสามารถแจ้งมาที่ช่องทางการติดต่อของบริษัท เพื่อได้รับการตรวจสอบชี้แจงหรือแก้ไขข้อกังวลต่างๆ จากบริษัทก่อน หรือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในการกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

11. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและคุณภาพของข้อมูล

11.1 บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กลุ่มเอไอเอส

11.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมา เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของท่านได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

12. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทอาจส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงบริษัทในกลุ่ม ผู้โฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ท่านอาจมีความสนใจ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด

13. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

14. ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท หากท่านประสงค์ที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัท อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้ในกรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามกฎหมาย
หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านยังคงสามารถใช้บริการของบริษัทได้ ซึ่งอาจทำให้ท่านได้รับความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเต็มประสิทธิภาพ

15. การดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีนโยบายปฏิบัติตามกฎหมายรวมถึงประกาศ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงออกมาตรการคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้บริการบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัท

16. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้ง ยังเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการกำกับการบริหารข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของบริษัท

17. ช่องทางการติดต่อบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
ช่องทางการติดต่อ : Call Center : 1530, E-mail : contact@3bbfibre3.com
หรือติดต่อผ่าน สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA Office)
ช่องทางการติดต่อ : E-mail : 3BBDPOOFFICE@ais.co.th

บริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติมประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมและความจำเป็นของบริษัท ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงบริษัทจะแจ้งประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับใหม่ไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท

แก้ไขล่าสุด 22 พฤศจิกายน 2566